36 ชั่วโมง คนหรือซุปเปอร์ไซย่า?

 


สมชาย: บักบุญมีเอ้ยยย... มื้อวานข่อยไปพ้อบทความนึงในเน็ต เว่าเรื่องพี่น้อง รปภ. บ้านเฮา เห็นแล้วกะคึดฮอดชีวิตเฮาตอนไปเฮ็ดเวียก กทม. ใหม่ๆ เด้วะ... จั่งแม่นคัก!

บุญมี: คักแนวได๋ล่ะสหายสมชาย? หรือเพิ่นว่า รปภ. หน้าตาดีคือต่อ ธนภพ จั่งสี้เบาะ? 🤣

สมชาย: บักห่า! มันสิแม่นแนวฮั่นติ๊! เพิ่นเว่าเรื่องความลำบาก ความเอาเปรียบที่หมู่เฮาพ้อกันนี่แหล่ว! มึงคึดเบิ่งเด้อ... เฮ็ดเวียกมื้อละ 12 ชั่วโมง! 😱 สิดีสิร้าย บ่มีมื้อหยุด มื้อเซาจักเทื่อ! ยืนแอ่นแม่นอยู่ฮั่นล่ะ แดดกะส่อง ฝนกะตก... เบิ่ดแฮง!

บุญมี: โห... 12 ชั่วโมง! นี่มันซ้อมเป็นนักรบพันธุ์แกร่งติ๊ หรือว่าสิไปโอลิมปิกประเภทยืนทน? 🏋️‍♂️ เงินเดือนเพิ่นให้หลายปานได๋ จั่งสู้คักปานนั่น?

สมชาย: กะตามเพิ่นว่าล่ะ... หมื่นต้นๆ บางทีบ่ฮอดหมื่นห้าซ้ำ! แต่ที่มันโพดโพกว่านั่นคือ... ถ้ามื้อได๋หมู่ร่วมงานบ่มาเด้? นายจ้างสั่ง "ควงกะ" ต่อโลด! ลากยาวไป 36 ชั่วโมง!!! 😵‍💫

บุญมี: หาาาา! 36 ชั่วโมง! ป๊าดโธ่... นี่มันคนหรือซุปเปอร์ไซย่าแปลงร่างวะ? 💥 แบบนี้บ่ต้องกินข้าว กินน้ำแล้วตั๊ว... ต้องต่อสายยาง M-150 เสียบเข้าเส้นเลือดใหญ่สถานเดียว! 💉 นายจ้างกะดายเนาะ... เห็นคนบ้านเฮาใจซื่อๆ กะขูดรีดเอาเปรียบคักแน่! งึดหลาย!

สมชาย: เอ้อน่ะสิ! มันเป็นตาลิโตนหมู่เฮาแฮง... แต่ๆๆ... ในบทความเพิ่นกะเว่าแนวทางแก้ให้ฟังอยู่เด้อบักบุญมี คือจั่งนายจ้างกับลูกจ้างเพิ่นมานั่งปุปะเว่ากัน จั่งซี้...

บุญมี: (ทำหน้าสงสัย) เพิ่นว่าจั่งได๋ล่ะ? หรือเพิ่นสิให้ รปภ. ใส่ชุดเกราะไอรอนแมน เฮ็ดเวียก 8 ชั่วโมงแล้วบินกลับบ้านนอน? 🚀

สมชาย: กวนตีนล่ะมึง! 🤣 เพิ่นว่า ต้องมีมื้อหยุดให้เขาชัดเจน! เฮ็ด 8 ชั่วโมงน่ะดีสุด ถ้า 12 ชั่วโมงกะต้องมีมื้อเซาหลายๆ มื้อติดกัน โอทีต้องจ่ายคักๆ 1.5 เท่า 3 เท่า ว่าไป! แล้วกะต้องมีคนสำรอง (Standby) ไว้ถ่าหมู่บ่มา บ่แม่นมาบังคับควงกะจนสิตายคาป้อมยาม! 💸

บุญมี: โอ้ยยย... ฟังคือจั่งความฝันยามเที่ยงน้อออ! 😴 มีคนสแตนด์บาย? ข่อยว่าสแตนด์บายถ่าเบิกเงินเดือนก่อนเพื่อนตั๊ว! ค่าโอที 3 เท่า? ป๊าดดด... ข่อยว่าได้โอเลี้ยงฟรี 3 แก้ว กะถือว่าเทวดามาโปรดแล้วล่ะสมัยนี้! 😂 นายจ้างสิยอมง่ายๆ ติ๊? เพิ่นกะสิว่า "บ่มีงบ" ท่าเดียวล่ะมั้ง!

สมชาย: กะแม่นอยู่... มันกะยากอยู่... แต่เพิ่นกะว่า ถ้านายจ้างเพิ่นฮู้จักคิดยาวๆ เด้ ดูแลลูกน้องดีๆ เขากะอยู่ดน เฮ็ดเวียกดีขึ้น บริษัทกะได้หน้าได้ตา คนกะอยากมาเฮ็ดนำ... มันกะเป็น "Win-Win" คือเพิ่นว่านั่นล่ะวะ 🤔

บุญมี: เอ้อ... เว่าคืออยู่... แต่ "Win-Win" น่ะ นายจ้างเพิ่น "Win" หลายกว่าหมู่เฮาคือเก่าล่ะมั้ง! 😂 เอ้าๆ เว่ามาหลายกะคอแห้ง... พักก่อนจักหน่อยก่อนเฮ็ดเวียกต่อแหน่สหาย!
สมชาย: เอ้า! พักผ่อน! ขอให้ได้โอทีคักๆ มีมื้อเซาหลายๆ ไปหาลูกหาเมียพุ้นล่ะ! ส่วนเฮากะ... พักแล้วกะไปเฮ็ดเวียกต่อ! 🤣

#รปภ #พนักรักษาความปลอดภัย #ค่าล่วงเวลา #ot #otรปภ

จากการเปิดอกพูดคุยกันด้วยความเข้าอกเข้าใจ ระหว่างฝ่ายบริหาร (นายจ้าง) และพนักงานรักษาความปลอดภัย (ลูกจ้าง รปภ.) โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความสุขในการทำงานที่ยั่งยืน ได้นำไปสู่ข้อสรุปและแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมหลายประการ ซึ่งหากนำไปปรับใช้อย่างจริงจัง จะส่งผลดีต่อทั้งตัวพนักงาน ประสิทธิภาพการทำงาน และภาพลักษณ์ขององค์กรโดยรวม ดังนี้:

1. จัดสรร "เวลาทำงานและวันหยุด" ที่เป็นธรรมและถูกกฎหมาย:

 * ข้อตกลงรูปธรรม:

   * ยึดหลักเวลาทำงานปกติไม่เกิน 8 ชั่วโมง/วัน และ 48 ชั่วโมง/สัปดาห์

   * กรณีจำเป็นต้องทำงานกะ 12 ชั่วโมง ต้องมีการจัดตารางที่ชัดเจน ให้มีวันหยุดพักผ่อนประจำสัปดาห์อย่างน้อย 1 วัน และมีรูปแบบการทำงาน-วันหยุดที่สมดุล (เช่น ทำ 4 หยุด 3) ไม่ใช่การทำงานทุกวัน

   * ชั่วโมงที่เกิน 8 ชั่วโมง/วัน ต้องคำนวณและจ่ายค่าล่วงเวลา (OT) ตามอัตราที่กฎหมายกำหนดอย่างถูกต้องและโปร่งใส

   * เป้าหมาย: ลดความเหนื่อยล้าสะสม ให้พนักงานได้พักผ่อนเพียงพอ ดูแลสุขภาพ และมีเวลาให้ครอบครัว

2. แก้ปัญหา "การบังคับควงกะ" ด้วยแผนกำลังพลสำรอง:

 * ข้อตกลงรูปธรรม:

   * จัดตั้งทีมพนักงานสำรอง (Relief/Standby) ที่มีความพร้อมและมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม สำหรับเข้าปฏิบัติหน้าที่แทนกรณีฉุกเฉิน หรือมีพนักงานขาด ลา

   * ยกเลิกการบังคับให้พนักงานที่เพิ่งออกเวร ต้องทำงานต่อเนื่อง (ควงกะ) ในทุกกรณี

   * วางระบบการลาและการขอสลับเวรที่ชัดเจน ล่วงหน้า

   * เป้าหมาย: สร้างความมั่นคงทางตารางเวลา ลดความเครียดให้พนักงาน ให้พนักงานได้พักผ่อนตามสิทธิ์ และรักษามาตรฐานความปลอดภัย

3. สร้างความมั่นใจด้วย "ค่าตอบแทนที่โปร่งใสและถูกต้อง":

 * ข้อตกลงรูปธรรม:

   * จ่ายค่าจ้างพื้นฐาน และค่าล่วงเวลา (OT) ให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามกฎหมายและตามชั่วโมงทำงานจริง

   * มีระบบบันทึกเวลาทำงานที่แม่นยำ ตรวจสอบได้

   * จัดทำสลิปเงินเดือนที่แจกแจงรายละเอียดรายรับต่างๆ อย่างชัดเจน (ค่าจ้าง, ค่า OT วันปกติ, ค่าทำงาน/OT วันหยุด)

   * เป้าหมาย: สร้างขวัญและกำลังใจ ให้พนักงานรู้สึกถึงความเป็นธรรมและความใส่ใจจากองค์กร ลดข้อกังวลทางการเงิน

4. เปิด "ช่องทางการสื่อสาร" รับฟังความคิดเห็น:

 * ข้อตกลงรูปธรรม:

   * จัดให้มีช่องทางที่พนักงานสามารถเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น หรือร้องเรียนปัญหาได้อย่างปลอดภัย (เช่น กล่องรับความคิดเห็น, ประชุมทีมย่อย, สายตรงถึงฝ่ายบุคคล/หัวหน้างาน)

   * ผู้บริหาร/หัวหน้างาน เปิดใจรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ และมีการสื่อสารผลการดำเนินการกลับไปยังพนักงาน

   * เป้าหมาย: ลดช่องว่าง สร้างความเข้าใจ พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วม สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และพัฒนาการทำงานร่วมกัน

5. เพิ่มความสุขด้วย "สวัสดิการและการดูแลที่เข้าถึงได้":

 * ข้อตกลงรูปธรรม:

   * ปรับปรุง/จัดให้มีพื้นที่พักผ่อนระหว่างปฏิบัติหน้าที่ (ป้อมยาม/จุดพัก) ที่สะอาด เหมาะสม ปลอดภัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน (พัดลม, น้ำดื่ม, ห้องน้ำที่เข้าถึงได้)

   * ส่งเสริมความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ การจัดการความเครียด หรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

   * พิจารณาสวัสดิการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เช่น ค่าเดินทาง เบี้ยขยัน หรือการตรวจสุขภาพประจำปี

   * เป้าหมาย: แสดงความห่วงใย ดูแลสุขภาวะพื้นฐาน ทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่ในฐานะคนทำงาน แต่ในฐานะเพื่อนมนุษย์

บทสรุป:

ข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมเหล่านี้ เป็นผลลัพธ์ของการที่นายจ้างและลูกจ้าง รปภ. หันหน้ามาพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ การนำแนวทางเหล่านี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความสุขของพนักงานรักษาความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะพนักงานที่มีความสุข สุขภาพดี และรู้สึกถึงความเป็นธรรม ย่อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความตื่นตัว และมีความภักดีต่อองค์กรมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วประโยชน์ก็จะกลับคืนสู่ทุกฝ่าย ทั้งตัวพนักงาน นายจ้าง และผู้รับบริการ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัตราผลประโยชน์เงินบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ปีล่าสุด 2566

หมอบูรณ์ คือใคร (ประวัติหมอบูรณ์)

เป็นหนี้ โดนฟ้อง เงินประกันสังคมจะถูกยึดได้ไหม? มาตรา 64 พ.ร.บ. ประกันสังคม มีคำตอบ (ฉบับเข้าใจง่าย)