เป็นหนี้ โดนฟ้อง เงินประกันสังคมจะถูกยึดได้ไหม? มาตรา 64 พ.ร.บ. ประกันสังคม มีคำตอบ (ฉบับเข้าใจง่าย)

ความกังวลที่คนเป็นหนี้มักสงสัย... เงินประกันสังคมของเราจะปลอดภัยไหม?

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านที่แวะเข้ามา ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ปัญหาหนี้สินเป็นสิ่งที่หลายคนอาจต้องเผชิญ และเมื่อปัญหาหนี้สินลุกลามไปถึงขั้นที่เจ้าหนี้ต้องดำเนินการทางกฎหมาย คือการ "บังคับคดี" ยึดทรัพย์สินของเราไปชำระหนี้ ความกังวลหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจของคนทำงานอย่างเราๆ ก็คือ "แล้วเงินที่เราสะสมไว้ในกองทุนประกันสังคมล่ะ จะโดนยึดไปด้วยไหม?"

เงินประกันสังคมถือเป็นหลักประกันสำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเงินสะสมกรณีชราภาพ เงินทดแทนเมื่อเจ็บป่วย หรือเงินชดเชยเมื่อว่างงาน เงินเหล่านี้เป็นเหมือนเสาค้ำยันในยามที่เราไม่สามารถสร้างรายได้ตามปกติได้ แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ถูกบังคับคดี กองทุนนี้จะยังคงเป็นที่พึ่งให้เราได้อยู่หรือเปล่า?

ไม่ต้องคาดเดาอีกต่อไปครับ! คำตอบสำหรับคำถามนี้มีระบุไว้อย่างชัดเจนใน พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 โดยเฉพาะใน มาตรา 64 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่เราจะมาเจาะลึกและทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันในบทความนี้ เพื่อให้คุณรู้สิทธิของตัวเองและคลายความกังวลใจลงได้ครับ

หลักการสำคัญที่คุ้มครองเงินของคุณ - เงินประกันสังคม "แตะต้องไม่ได้" จากเจ้าหนี้ทั่วไป (ตามมาตรา 64 วรรคหนึ่ง)

กฎหมายประกันสังคมมีเจตนารมณ์ในการสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้ประกันตน ดังนั้นจึงมีบทบัญญัติที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ประกันตนพึงได้รับ โดยเฉพาะในเรื่องการบังคับคดี ลองมาดู มาตรา 64 วรรคแรกกันครับ:

> มาตรา 64 วรรคหนึ่ง: "สิทธิที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่อาจโอนกันได้ และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี"

มาถอดความภาษาที่เข้าใจง่ายๆ กันครับ:

 * "สิทธิที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่อาจโอนกันได้": หมายความว่า สิทธิในการรับเงินต่างๆ จากประกันสังคม (เช่น เงินบำนาญ เงินทดแทนหยุดงาน ฯลฯ) เป็นสิทธิเฉพาะตัวของคุณเท่านั้น คุณไม่สามารถยกสิทธินี้ให้คนอื่น หรือนำไปเป็นหลักประกัน หนี้สินใดๆ ได้เลย

 * "และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี": นี่คือประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับคนเป็นหนี้ครับ วรรคนี้บอกอย่างชัดเจนว่า "เงินประกันสังคมของคุณ ไม่สามารถถูกเจ้าหนี้ (ส่วนใหญ่) ดำเนินการบังคับคดี หรืออายัดไปใช้หนี้ได้" ไม่ว่าคุณจะมีหนี้บัตรเครดิต หนี้เงินกู้ส่วนบุคคล หนี้จากการทำธุรกิจ หรือหนี้อื่นๆ ทั่วไป เจ้าหนี้เหล่านี้ไม่สามารถตามมายึดเงินจากกองทุนประกันสังคมของคุณได้เลย แม้จะมีคำสั่งศาลแล้วก็ตาม

ทำไมกฎหมายต้องคุ้มครองเงินส่วนนี้เป็นพิเศษ?

เหตุผลง่ายๆ คือ เงินประกันสังคมไม่ใช่ทรัพย์สินฟุ่มเฟือย แต่เป็นเงินที่คุณและนายจ้างช่วยกันสะสมไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ยามเจ็บป่วย ยามว่างงาน หรือยามชรา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณอาจไม่มีรายได้ตามปกติ กฎหมายจึงเห็นความสำคัญและต้องการให้เงินส่วนนี้ยังคงเป็นหลักประกันชีวิตพื้นฐานของคุณจริงๆ ไม่ให้ถูกนำไปใช้ชำระหนี้สินประเภทอื่นๆ ครับ

แต่มี "ข้อยกเว้นเดียว" ที่ต้องรู้! เมื่อไหร่ที่เงินประกันสังคมอาจถูกอายัดได้? (ตามมาตรา 64 วรรคท้าย)

เมื่อมีหลักการ ก็มักจะมีข้อยกเว้นเสมอครับ สำหรับเงินประกันสังคมที่ดูเหมือนจะปลอดภัยจากการบังคับคดีเกือบทั้งหมด ก็ยังมี "ข้อยกเว้นสำคัญเพียงอย่างเดียว" ที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 64 วรรคท้าย ดังนี้ครับ:

> มาตรา 64 วรรคสอง (วรรคท้าย): "ความในวรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับแก่การบังคับคดีในหนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู"

ถอดความเป็นภาษาคนง่ายๆ ก็คือ "หลักการที่บอกว่าอายัดเงินประกันสังคมไม่ได้ในวรรคแรกนั้น จะไม่นำมาใช้ กับกรณีที่เป็นการบังคับคดีเพื่อชำระ 'หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู'"

"หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู" คืออะไร?

นี่คือคำสำคัญที่คุณต้องทำความเข้าใจครับ "หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู" หมายถึง เงินที่บุคคลหนึ่งมีหน้าที่ต้องจ่ายเพื่อเลี้ยงดูบุคคลในครอบครัว โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตาม "คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล" ครับ

ตัวอย่างของหนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดูที่พบบ่อย:

 * ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร: กรณีที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือมีการหย่าร้าง และศาลมีคำสั่งให้ฝ่ายหนึ่งต้องจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้กับบุตร

 * ค่าอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรส: ในกรณีที่มีการหย่าร้าง และศาลมีคำสั่งให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับอดีตคู่สมรส (ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด)

ทำไมหนี้ประเภทนี้ถึงเป็นข้อยกเว้น?

เหตุผลก็เพื่อคุ้มครองบุคคลที่กฎหมายเห็นว่าสมควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ "บุตร" ซึ่งยังไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หากเงินประกันสังคมไม่สามารถนำมาบังคับคดีเพื่อจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรได้เลย บุตรอาจได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส กฎหมายจึงเปิดช่องให้ในกรณี "เฉพาะ" หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดูตามคำสั่งศาลนี้ สามารถดำเนินการบังคับคดีกับเงินประโยชน์ทดแทนจากประกันสังคมได้ครับ

สรุปชัดๆ: หนี้แบบไหน "อายัดเงินประกันสังคมไม่ได้" vs "อายัดเงินประกันสังคมได้"

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาเปรียบเทียบง่ายๆ ครับ:


 * หนี้ทั่วไป (หนี้ส่วนใหญ่) - "อายัดเงินประกันสังคมไม่ได้"

   * หนี้บัตรเครดิต

   * หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล/เงินกู้นอกระบบ

   * หนี้จากการค้ำประกัน (ที่ไม่ใช่หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู)

   * หนี้การค้า หนี้จากการทำธุรกิจ

   * หนี้อื่นๆ ที่ไม่ใช่หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู

   * (อ้างอิงตาม มาตรา 64 วรรคหนึ่ง)

 * หนี้เฉพาะประเภทเดียว - "อายัดเงินประกันสังคมได้"

   * หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล (เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเลี้ยงดูคู่สมรส)

   * (อ้างอิงตาม มาตรา 64 วรรคท้าย - เป็นข้อยกเว้นของวรรคหนึ่ง)

สถานการณ์สมมติ:

 * ตัวอย่าง 1: คุณ ก. มีหนี้บัตรเครดิตจำนวนมาก และถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องจนศาลมีคำสั่งบังคับคดี เจ้าหนี้สามารถอายัดเงินเดือน อายัดบัญชีธนาคาร (ที่ไม่ใช่เงินประกันสังคมที่เข้าโดยตรงและคงค้างอยู่ในบัญชีที่เป็นชื่อบัญชีประกันสังคมโดยเฉพาะ) หรือยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของคุณ ก. ได้ แต่ไม่สามารถอายัดเงินบำนาญชราภาพ หรือเงินทดแทนกรณีว่างงานที่คุณ ก. จะได้รับจากประกันสังคมได้

 * ตัวอย่าง 2: คุณ ข. ถูกศาลมีคำสั่งให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร แต่คุณ ข. ไม่ยอมจ่าย อดีตคู่สมรสของคุณ ข. ซึ่งเป็นผู้รับค่าเลี้ยงดูบุตร สามารถดำเนินการบังคับคดีและ สามารถขออายัดเงินบำนาญชราภาพ หรือเงินประโยชน์ทดแทนอื่นๆ ที่คุณ ข. จะได้รับจากประกันสังคม เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าเลี้ยงดูบุตรได้

รู้สิทธิของคุณ... เมื่อเผชิญปัญหาหนี้สินและการบังคับคดี

การรู้กฎหมายพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมากครับ หากคุณกำลังเผชิญปัญหาหนี้สินและกังวลว่าจะถูกบังคับคดีกับเงินประกันสังคม:

 * ตรวจสอบประเภทของหนี้: ดูว่าเป็นหนี้ประเภททั่วไป หรือเป็นหนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดูตามคำสั่งศาล

 * ใช้สิทธิของคุณ: หากเจ้าหนี้ (ที่ไม่ใช่หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดู) พยายามจะดำเนินการใดๆ กับเงินประกันสังคมของคุณ คุณมีสิทธิที่จะปฏิเสธและแจ้งให้ทราบถึงบทบัญญัติใน มาตรา 64 วรรคหนึ่ง ได้

 * ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจในสถานการณ์ของตัวเอง หรือต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมาย ควรปรึกษาทนายความ หรือเจ้าหน้าที่ของกรมบังคับคดี เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับกรณีของคุณครับ

ข้อควรจำ: บทความนี้ให้ข้อมูลตามข้อกฎหมายใน มาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 2533 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 4 พ.ศ. 2558) ซึ่งเป็นข้อมูลทั่วไป การบังคับคดีแต่ละกรณีอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันไป การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายจะให้คำแนะนำที่ตรงจุดที่สุดสำหรับสถานการณ์ของคุณครับ

สรุป: เงินประกันสังคมส่วนใหญ่ปลอดภัย... ยกเว้นหนี้ค่าเลี้ยงดู

โดยสรุปแล้ว เงินประโยชน์ทดแทนที่คุณได้รับจากกองทุนประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนหรือเงินรายเดือน เช่น เงินบำนาญชราภาพ เงินทดแทนการขาดรายได้ หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่สามารถถูกโอนหรือถูกเจ้าหนี้ทั่วไปบังคับคดี (อายัด) ได้ นี่คือหลักการสำคัญตาม มาตรา 64 วรรคหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม มี ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว คือ หนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดูตามคำพิพากษาของศาล ในกรณีนี้ เงินประกันสังคมของคุณ อาจถูกนำมาใช้ในการบังคับคดีได้ เพื่อประโยชน์ของบุคคลที่ต้องได้รับการอุปการะเลี้ยงดูตามกฎหมาย (มาตรา 64 วรรคท้าย)

หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยและให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านนะครับ การมีความรู้ความเข้าใจในสิทธิของตัวเอง จะช่วยให้คุณสามารถจัดการปัญหาหนี้สินและวางแผนชีวิตได้อย่างมั่นคงมากขึ้น

คำหลัก (Keywords): "บังคับคดี", "ประกันสังคม", "มาตรา 64", "หนี้", "อายัด", "ค่าอุปการะเลี้ยงดู", "กฎหมาย" 

ข้อควรระวัง:

 * ไม่ใช่คำแนะนำทางกฎหมาย:  เนื้อหาในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางกฎหมาย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสำหรับกรณีเฉพาะของตัวเอง

 * อัปเดตกฎหมาย: กฎหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต วันที่เผยแพร่บทความ 27 เม.ย. 2568 และอาจต้องมีการอัปเดตหากกฎหมายเปลี่ยนไป

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัตราผลประโยชน์เงินบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ปีล่าสุด 2566

หมอบูรณ์ คือใคร (ประวัติหมอบูรณ์)