ย้อนรอย "ประกันสังคมไทย": จากจุดกำเนิดสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ... แต่ละยุค นายกฯ มีบทบาทอย่างไร?
สำหรับมนุษย์เงินเดือน การจ่าย "เงินสมทบประกันสังคม" ทุกเดือนคือเรื่องปกติ แต่รู้ไหมว่าระบบนี้มีวิวัฒนาการมายาวนาน และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแต่ละยุคสมัยของนายกรัฐมนตรี! มาดูกันว่า "หลักประกัน" ของพวกเรานี้ ก่อตั้งและพัฒนามาอย่างไรบ้าง?
เรื่องราวเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2533 ในยุคของ พลเอก ชาติชาย ที่ได้มีการ ตราพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ขึ้น ถือเป็นรากฐานสำคัญของการมีระบบประกันสังคมในไทย
จากนั้น ในช่วง พ.ศ. 2533-2534 ภายใต้การบริหารของ นายอานันท์ พระราชบัญญัติประกันสังคมก็ได้ เริ่มมีผลบังคับใช้จริง เริ่มมีการ เก็บเงินสมทบ จากลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล และเริ่มให้ สิทธิประโยชน์ในกรณีเริ่มต้น แก่ผู้ประกันตน
จุดเปลี่ยนที่ส่งผลโดยตรงต่อเงินในกระเป๋าผู้ประกันตนมาถึงใน พ.ศ. 2538 ในยุคของ นาย บรรหาร ที่ได้มีการ ปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบส่วนของลูกจ้างจาก 1.5% ขึ้นเป็น 5%! ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระการจ่ายอย่างชัดเจน และในปีเดียวกันนี้เอง ก็ได้มี การกำหนดฐานค่าจ้างสูงสุดที่ใช้คำนวณเงินสมทบไว้ที่ 15,000 บาท ซึ่งตัวเลขนี้จะ "ล็อก" เพดานเงินสมทบสูงสุดที่ 750 บาทต่อเดือนไปอีกยาวนานกว่า 25 ปี!
ระบบประกันสังคมไม่ได้หยุดนิ่งเพียงแค่สิทธิเริ่มต้น แต่มีการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมในยุคต่อมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ประกันตน:
ใน พ.ศ. 2541 ภายใต้การนำของ นาย ชวน มีการ เริ่มให้สิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร เป็นครั้งแรก ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว
ถัดมาใน พ.ศ. 2542 ก็ยังอยู่ในยุคของ นาย ชวน ที่ได้มีการ เริ่มให้สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ เพิ่มเข้ามา ซึ่งถือเป็นหลักประกันสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณของผู้ใช้แรงงาน
ความคุ้มครองยังขยายไปถึงกรณีที่ไม่คาดฝันอย่างการว่างงาน:
ใน พ.ศ. 2547 ยุคของ พันตำรวจโท ทักษิณ ระบบประกันสังคมได้ เริ่มให้สิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน แก่ผู้ประกันตน ทำให้มีเงินประทังชีวิตในช่วงที่กำลังหางานใหม่
และเหตุการณ์ล่าสุดที่กำลังจะส่งผลกระทบในอนาคต เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2566-2567 ภายใต้การบริหารของ นาย เศรษฐา ที่ได้มีการ อนุมัติและผลักดันแผนการปรับฐานค่าจ้างสูงสุด ที่ใช้คำนวณเงินสมทบ จากตัวเลข 15,000 บาทที่ค้างมานานกว่า 25 ปี โดยแผนดังกล่าวจะ เริ่มมีผลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป โดยจะทยอยปรับเพดานขึ้นเป็นขั้นบันไดในระยะยาว
สรุปแล้ว การเดินทางของระบบประกันสังคมไทย ตั้งแต่เป็นกฎหมาย เริ่มเก็บเงิน ให้สิทธิพื้นฐาน ขยายไปสู่การดูแลบุตร ชราภาพ ว่างงาน และกำลังเตรียมปรับโครงสร้างเงินสมทบครั้งใหญ่ ล้วนมีเรื่องราวและจุดเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัยของนายกรัฐมนตรี การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของระบบเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยที่เปลี่ยนไป
“คุณคิดอย่างไรกับการปรับฐานเงินสมทบในปี 2569?”
“ระบบประกันสังคมในปัจจุบันตอบโจทย์ชีวิตมนุษย์เงินเดือนจริงหรือไม่?”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น