เหตุใดฎีกายังไม่ถึงในหลวงสักครา

 


5  ธันวาคม  2563


กราบบังคมทูลพระกรุณาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ เรื่องเงินสมทบชราภาพในระบบประกันสังคม ครั้งที่ 3


               ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้านายสัตวแพทย์บูรณ์ อารยพล อายุ 47 ปี เพศชาย อาชีพรับจ้างอิสระ ผู้นำกลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมในนามกลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน เป็นกลุ่มที่มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้น้อย พบว่ากลุ่มได้รับผลกระทบจากโควิด 19 มาระยะเวลานาน ทำให้สมาชิก กว่า 20,000 ราย ส่วนใหญ่รายได้ลดลง จากการว่างงาน ค่าจ้างลดลงจากลดวันทำงาน ลดค่าโอที แต่รายจ่ายไม่สามารถลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นหนี้ จากการเช่า ผ่อน ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ ทำให้หลายรายต้องพึ่งเงินกู้ นอกระบบ และข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าร่วมสมาชิกกลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน ได้ไปยื่นหนังสือขอเงินสะสมในส่วนเงินสมทบชราภาพคืนก่อนกำหนด เพื่อจะได้นำมาใช้หนี้และใช้จ่ายในครอบครัวจาก สำนักประกันสังคม และทำการร้องเรียนไปยังหน่วยงานกระทรวงแรงงาน และสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ไม่ได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องนี้เท่าที่ควร โดยได้ยื่นเรื่องมาแล้วกว่า 6 เดือน แต่หน่วยงานรัฐส่วนนี้ที่ผ่านมาตอบโต้กับข้อเรียกร้องแบบนิ่งเฉย มีเพียงบางส่วนที่ตอบสนองมาบ้าง คือ ทางนายกรัฐมนตรีตอบรับโดยเพียงลงชื่อในหนังสือที่ส่งโดยผู้ช่วยรัฐมนตรีฯว่าเห็นชอบกับข้อเรียกร้องของกลุ่ม ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนปัจจุบันรับว่าจะหาหนทางช่วยเหลือภายในระยะเวลา 5-6 เดือน นับจากวันที่เรียกกลุ่มเข้าประชุม 31 สค. 63 แต่ก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าใดๆ ในปัจจุบัน และทางบอร์ดประกันสังคมได้มีการตั้งอนุกรรมาการเพื่อศึกษาเรื่องที่ร้องขอนี้เมื่อต้นเดือน พย. 63 จนในตอนนี้แรงงานในกลุ่มจำนวนหมื่นกว่าคนได้เดือดร้อนหนักมาก บางคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย ข้าพระพุทธเจ้ามองไม่เห็นทางออกอะไรเลยกับสิ่งที่ได้ทำการร้องเรียนมาตลอดระยะเวลา 6 เดือน ว่าหน่วยงานรัฐทั้ง 3 จะช่วยแรงงานที่เดือดร้อนอยู่ในการช่วยเหลือได้ทันเวลาได้ โดยกลุ่มข้าพระพุทธเจ้าได้มีการเรียกร้องผ่านไปยังหน่วยงานต่างๆ รายละเอียดดังต่อไปนี้


ครั้ง 1 วันที่ 1 พค. 63 กลุ่มได้ไปยื่นหนังสือกับทางกระทรวงแรงงาน 3 ข้อเรียกร้อง คือให้ขอยืมเงิน ขอเงินคืน และ ขอให้ผู้ประกันตนเมื่อครบอายุ 55 สามารถเลือกรับเงินชราภาพเป็นบำเหน็จหรือบำนาญ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง

ครั้ง 2 วันที่  15 พค. 63 กลุ่มได้ไปนำเสนอข้อเรียกร้องที่สำนักงานประกันสังคม ปรากฎว่าเมื่อนำเสนอแล้วก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ

ครั้งที่ 3 วันที่ 27 พค. 63  ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

ครั้งที่ 4 วันที่ 29 พค. 63 ได้ไปยื่นหนังสือขอเรียกร้องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 รหัสเรื่อง นร01630006671 และได้ไปยื่นหนังสือกับรัฐสภา

ครั้งที่ 5  วันที่ 24 มิย. 63 ได้พยายามเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ปรากฎว่าไม่สามารถเข้าพบนายกฯได้ โดยมีเจ้ามีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมมารับหนังสือแทน

ครั้งที่ 6 วันที่ 25 มิย. 63 ได้รับหนังสือจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แจ้งว่ากำลังแสวงหาข้อเท็จจริง


ครั้งที่ 7 วันที่ 26 มิย. 63 ทางสำนักงานสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยคุณสุภรณ์ อัตถาวงค์ ได้เรียกกลุ่ม และ รองเลขาธิการประกันสังคมมาปรึกษาหารือ และได้ทำบันทึกข้อตกลงเรื่องร้องขอความเป็นธรรมของผู้ประกันตน

ครั้งที่ 8 วันที่ 30 มิย. 63 ได้รับหนังสือตอบกลับจากสภาผู้แทนราษฎร ตอบกลับมาว่าได้ส่งเรื่องที่ร้องเรียนไปยังรัฐบาลผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ครั้งที่ 9 วันที่ 2 กค. 63 ได้รับหนังสือจากสำนักงานประกันสังคม อ้างถึงหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 29 พค. 63 จะทำการวิเคราะห์ว่าจะสามารถนำเงินสมทบชราภาพนำไปใช้ก่อนได้เท่าไหร่ ฯ

ครั้งที่ 10 วันที่ 3 กค. 63 ได้รับหนังสือตอบกลับจากศูนย์ดำรงธรรม ว่าเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคม

ครั้งที่ 11  วันที่ 17 กค. 63 ได้รับหนังสือจากคุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ว่าได้กราบเรียนนายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันสังคม 


ครั้งที่ 12 วันที่ 4 สค. 63 ได้รับหนังสือจากสำนักงานผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ว่า ได้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีแล้ว และมีบัญชาให้กระทรวงแรงงานพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและรายงานผล

ครั่งที่  13 วันที่  14 สค. 63 ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องกับรัฐมนตรีคนใหม่ คุณสุชาติ ชมกลิ่น

ครั้งที่  14 วันที่ 25 สค. 63 พยายามเข้าพบนายกรัฐมนตรี ครม. สัญจร ที่ระยอง

ครั้งที่ 15 วันที่ 31 สค. 63 รัฐมนตรีแรงงาน ได้เรียกเข้ามาประชุมและแจ้งว่าข้อเรียกร้องต้องใช้เวลา โดยขอเวลา 5 ไม่เกิน 6 เดือน จะทำให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงเงินสมทบชราภาพของตนเองได้ ทางกลุ่มแจ้งกับรัฐมนตรีว่าระยะเวลาดังกล่าวนั้นไม่ทันทวงทีกับความเดือนร้อนของผู้ประกันตน โดยจะทำการร้องขอไปที่นายกเพื่อขอ พรก. เงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยตนเองต่อไป และร้องขอให้ รัฐมนตรีหาเงินในจำนวนที่เหมาะสมช่วยเหลือผู้ประกันตนจากนายกรัฐมนตรี

ครั้งที่  15 วันที่ 15 กย. 63 ขอให้รัฐสภาช่วยพิจารณาเร่งแปรญัตติเพื่อแก้ไข พรบ. ประกันสังคม

ครั้งที่ 16 วันที่ 16 กย. 63 ประชุมกับ รัฐมนตรีแรงงาน คุณสุชาติ ชมกลิ่ม เลขาธิการประกันสังคม สส. พรรคเล็ก เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้ประกันตน โดยรัฐมนตรี แจ้งกับที่ประชุมว่า จะช่วยเหลือให้ผู้ประกันตนเข้าถึงเงินชราภาพของตนเองภายใน 5-6 เดือน

ครั้งที่ 17 วันที่ 29 กย.  63 สอบถามกับบอร์ดประกันสังคมเรื่องความคืบหน้าของข้อเรียกร้องที่ยื่นไว้ แต่ไม่ได้พบกับบอร์ด จึงได้ค้างแรมที่ประกันสังคม

ครั้งที่ 18 วันที่ 30 กย. 63 เลขาธิการประกันสังคม คุณทศพล กฤตวงค์วิมาน ได้เรียกเข้าประชุม และแจ้งว่ารับเรื่องให้

ครั้งที่ 19 วันที่ 13 ตค.  63 ประชุมกับอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค และ รองเลขาธิการประกันสังคม นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ

ครั้งที่ 20 วันที่ 26 ตค. 63 ติดตามข้อเรียกร้องกับบอร์ดประกันสังคม ปรากฎว่าบอร์ดแจ้งว่าไม่ทราบเรื่องราวมาก่อน


ครั้งที่ 21 วันที่ 2- 3พย 63 ได้พยายามเข้าพบรัฐมนตรีในการประชุม ครม.สัญจรที่ภูเก็ตเพื่อติดตามเรื่องร้องเรียน

ครั้งที่ 22  วันที่ 3 พย. 63 ประชุมกับอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 2

ครั้งที่ 23 วันที่ 5 พย. 63 ประชุมกับอนุกรรมาการศึกษาข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานในการขอใช้เงินกองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพก่อนกำหนด (เฉพาะกิจ) ครั้งที่  1

ครั้งที่ 24 วันที่  17 พย. 63 ประชุมกับ กมธ. แรงงาน กับ สปส ที่รัฐสภา

ครั้งที่ 25 วันที่ 30 พย. 63 ประชุมกับอนุกรรมาการศึกษาข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานในการขอใช้เงินกองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพก่อนกำหนด (เฉพาะกิจ) ครั้งที่  2


ครั้งที่ 26 วันที่ 30 พย. 63 รับหนังสือจากสำนังานเลาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ยังไม่การเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎร


จากรายละเอียดข้างต้นมากกว่า 20 ครั้ง กลับไม่ได้รับคำตอบในการช่วยเหลือเหล่าข้าพระพุทธเจ้าแบบที่ชัดเจนและทันกาลต่อความเดือดร้อน ได้รับเพียงแต่คำมั่นสัญญาโดยไม่มีกำหนดเวลา ไม่มีรูปแบบ เช่น จำนวนเงินที่จะช่วยเหลือ ระยะเวลาที่จะได้รับการช่วยเหลือ ข้าพระพุทธเจ้าจึงขอพระบารมี


เร่งรัดสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ผู้ประกันตนยืมเงินตนเองตามที่ได้ศึกษาผ่านอนุกรรมการศึกษาข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานในการขอใช้เงินกองทุน ประกันสังคมกรณีชราภาพก่อนกำหนดโดยขอให้เร่งทำการประชุมของคณะกรรมาการประกันสังคม (บอร์ด) เพื่อยื่นต่อ ครม. เพื่อออกเป็นกฎกระทรวงในกรอบระยะเวลาที่รวดเร็วกว่านี้ เนื่องจากเหล่าข้าพระพุทธเจ้าเดือนร้อนมานานกว่า 6 เดือน โดยมีข้อที่ต้องคำนึงถึงคือ ผู้ประกันตนที่เดือดร้อนเกือบทั้งหมดติดเครดิตบูโรต้องสามารถยืมเงินตนเองได้ และขอให้ผู้ประกันตนยืมเงินชราภาพของส่วนตนเองได้ทั้งหมด เพราะยังมีเงินสมทบในส่วนของนายจ้างในอัตราส่วนเท่ากับของผู้ประกันตนที่จะมาค้ำประกันเงินยืมได้


ข้อคำนึงอีกข้อคือผู้ที่เคยส่งเงินมาแล้วแต่ปัจจุบันไม่ได้ส่งเงินสมทบแล้ว มีเงินสมทบของตัวเองต้องได้รับสิทธิยืมเงินทั้งหมดของตนเองได้เช่นกัน


ขอให้ทางประกันสังคมเร่งดำเนินการให้ผู้ประกันตนยืมเงินสมทบตนเองได้ภายในสิ้นปีนี้


หากทางประกันสังคมติดเงื่อนไขทางกฎหมาย ให้ทางรัฐบาลใช้อำนาจนโยบาย ออก พรก. เงินกู้ช่วยเหลือผู้ประกันตนที่กำลังเดือดร้อน โดยทางรัฐบาลสำรวจผู้ประกันตนที่เดือดร้อนเร่งด่วน ซึ่งให้ผู้ที่เดือดร้อนจริงอาจจะมีจำนวนหนึ่งโดยใช้งบประมาณที่ประมาณการได้ และเมื่อแก้ไขพรบ. ประกันสังคมเรียบร้อยแล้วจึงนำเงินผู้ประกันตนมาคืนรัฐบาล อันเป็นวิธีการที่จะช่วยผู้เดือนร้อนได้ทันท่วงที


โดยความหวังของเหล่าข้าพระพุทธเจ้าในระยะเวลายาวคือ ผู้ประกันตนเมื่ออายุครบ 55 ปี สามารถเลือกรับเงินสมทบชราภาพในแบบบำเหน็จหรือบำนาญตามชอบได้


อนึ่งการถวายฎีกาครั้งนี้เป็นการถวายฎีกาในครั้งที่ 3 โดยข้าพระพุทธเจ้าและกลุ่มได้พยายามถวายฎีกากับในหลวงครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 พย. 63 ณ สวนลุมพีนี ในวันพระมหาธีรราชเจ้า แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยมีร้อยเวร สน. ลุมพีนีและเจ้าหน้าที่เขตปทุมวันมารับฎีกาแทน และในวันรุ่งขึ้น 26 พย. 63 ข้าพระพุทธเจ้า ได้ถวายฎีกาผ่านเจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักราชเลขาธิการ ณ พระบรมมหาราชวัง 


ข้าพระพุทธเจ้าในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม จึงเขียนข้อความเดือดร้อนของแรงงานเป็นฎีกาเป็นครั้งที่ 3 มาถวายมาในวันคล้ายวันพระราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 9 และวันพ่อแห่งชาติ ขอความช่วยเหลือจากในหลวงหรือพ่อหลวงที่เป็นที่เคารพรักของคนไทยทุกคน เพราะพระองค์ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาและพระกรุณาต่อประชาชนที่เป็นเหมือนลูกๆ ของพระองค์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพระองค์จะทรงมีพระเมตตาและช่วยเหลือแรงงานผู้ประกันตนจำนวนมากที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ ในการเข้าถึงเงินของแรงงานที่สะสมไว้กับประกันสังคมเพื่อให้ปวงชนผู้ประกันตนพ้นวิกฤตโควิด 19 นี้


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

นายบูรณ์  อารยพล   

ผู้แทนกลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัตราผลประโยชน์เงินบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ปีล่าสุด 2566

หมอบูรณ์ คือใคร (ประวัติหมอบูรณ์)

อัตราผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพ ม.33 และ ม.39 รวม 22 ปี พ.ศ. 2542-2563