การลดส่งเงินสมทบประกันสังคม ตลอดปี 63-64 มีผลกับเงินชราภาพเมื่อ อายุครบ 55 ไหม
จากที่เริ่มมีการระบาดของโรค โควิด-19 มาส่งผลทำให้การส่งเงินสมทบประกันสังคมลดลงไม่ว่าจะสาเหตุใด เช่นมีนโยบายจากสำนักงานประกันสังคมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทั้งหม่อมเต่า และ เสี่ยเฮ้ง ที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี จนประกาศออกมาหลายช่วงของปีพุทธศักราช 2563 จนกระทั่งถึงปีพุทธศักราช 2564 หลายครั้งหลายคราว อีกทั้งผู้ประกันตนบางคนถูกนายจ้างให้ทำงานลดลง ถูกเสนอให้ลดเงินเดือนลง จึงมีคำถามว่าเงินสมทบชราภาพที่สะสมไว้ในปีสองปีนี้จะมีผลอย่างไรบ้าง และจะทำให้การรับเงินสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพเป็นอย่างไร
คลิปอธิบายเรื่องเงินสมทบลดลงมีผลอย่างไรกับเงินชราภาพ
เรามาดูเรามาดูกันว่าในปี 2563 จนถึงปัจจุบันรัฐมีนโยบายออกมาอย่างไรบ้าง
โดยพบว่าโดยพบว่าในปี 2563 ในช่วงของเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมรัฐมีกำหนดให้ลดอัตราการส่งเงินสมทบลงจากรูปเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ถูกส่งเพียง 1.8% ของฐานที่เงินเดือน 4,800 บาท ส่งอยู่ 86 บาท
และก็ นโยบายลดเงินสมทบอีกในเดือน กันยายนถึงพฤศจิกายน กำหนดให้ส่ง เงิเงินสมทบเพียง 2% เป็นเงินเพียง 96 บาท
และก็พบว่าในปี 2564 ยังกำหนดเงินสมทบให้ส่งลดลงดังต่อไปนี้คือในเดือนมกราคมส่งเพียง 5.8% เป็นเงิน 278 บาท เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมกำหนดให้ส่งเพียง 0.8% เป็นเงิน 38 บาท และในเดือนและในเดือนมิถุนายนที่กำลังจะถึงนี้ถึงเดือนสิงหาคมก็ถูกกำหนดให้ส่งที่ 4.5% หรือเป็นเงิน 216 บาท
จากการลดเงินเดือนจากการลดเงินเดือนเดือนข้างต้นนี้มีคนถามมากมายว่าจะมีผลเช่นไร เมื่อถึงคราวเกษียณและรับเงินสิทธิประโยชน์ชราภาพ
ขอตอบแบ่งเป็นทั้งหมด 2 กรณีแบ่ง ตามมาตราดังนี้
-กรณีของการรับบำเหน็จชราภาพ การลดเงินการลดเงินสมทบย่อมมีผลต่อกรณีนี้ทางมาตรา 33 และมาตรา 39 แต่เนื่องด้วยคนมาตรา 39 เป็นการเก็บเงินสะสมของตัวเองเพราะฉะนั้นในเมื่อส่งน้อยก็สมควรได้น้อยเป็นเรื่องปกติ ส่วนมาตรา 33 นั้นจะมีบางช่วงบางกรณีที่ทางสำนักงานประกันสังคมเก็บส่วนของนายจ้างเต็มส่วนนี้ทำให้การลดการส่งเงินสะสมของผู้ประกันตนไม่มีผลแต่อย่างใด แต่ช่วงที่ สปส. ลดเงินสมทบของนายจ้างด้วยส่วนนี้ก็อาจจะมีผลทำให้เงินที่ควรจะได้รับในส่วนของเงินสมทบชราภาพของนายจ้างลดลงตามไปด้วย
เพราะฉะนั้นเพราะฉะนั้นสรุปในส่วนของบำเหน็จชราภาพนั้นเมื่อลดเงินสมทบก็จะทำให้เมื่อชราภาพรับสิทธิประโยชน์เงินก็จะลดหลั่นกันตามจำนวนที่ส่งลงไป
-กรณีรับเป็นบำนาญชราภาพ ซึ่งผู้ประกันตนที่จะรับเป็นบำนาญชราภาพนั้นตามกฏหมาย เรื่องของการรับเงินชราภาพกำหนดไว้ว่าผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบมาตั้งแต่ 180 เดือนเป็นต้นไปจะได้รับเป็นเงินบำนาญชราภาพ โดยคิดจากฐานเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 20% บวกกับเงินโบนัสที่ส่งเกินทุกๆ 12 เดือนอีก 1.5% เป็นเงินบำนาญชราภาพที่จะได้รับแต่ละเดือน ดังนั้นการลดส่งเงินสมทบลงเป็นเปอร์เซ็นต์ตามนโยบายของภาครัฐบาลจึงไม่มีผลต่อบำนานชราภาพที่จะได้รับเมื่อครบอายุ 55 ปี
แต่อาจจะมีผลกับคนที่ไม่ได้รับเงินเดือนเป็นรายเดือนแต่รับเป็นลูกจ้างรายวัน ที่ถูกนายจ้างลดจำนวนวันหรือให้ลูกจ้างลาโดยที่ไม่ได้รับค่าจ้าง โดยเฉพาะ ลูกจ้าง ที่กำลังจะเกษียณแล้ว คือผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีเป็นต้นไป ตั้งว่าจะเกษียณที่อายุ 55 ปี เพราะฉะนั้นเงินเดือนใน 60 เดือนนี้ จะถูกไปคำนวณ ทำให้มีฐานเงินเดือนลดลงได้ เมื่อฐานเงินเดือนลดลงก็ทำให้การคิดคำนวณเงินบำนาญชราภาพลดลง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น